Cosina is the successor to Nikō (or

Cosina is the successor to Nikō (or "Nikoh"), a company set up as a manufacturer of lenses in 1959. In 1966, it started to manufacture 35 mm compact cameras and 8 mm cine cameras, in 1968 it started a glassworks, and a year later started the manufacture of 35 mm film SLR cameras. Nikō changed its name to Cosina in 1973. (The first part of the name is a reference to the Koshi area within Nakano, where the founder came from; while the 'Na' represents Nakano.)

The name Cosina has previously appeared on compact and SLR cameras for 135 film. The CS-2 and CS-3 SLRs were introduced in 1978, followed in 1980 by the CT-1, CT-7 (the world's first all—push-button SLR), CT-10 and CT-20, the CT-1G in 1982 and the CT-9 in 1986. Cosina SLR cameras used either the M42 (Praktica/Pentax) lens mount or the Pentax K (bayonet) lens mount. However, Cosina is probably better known as a manufacturer of cameras and camera components for other brands. During the late 1970s, Cosina made a name for itself in 35 mm rangefinder cameras with a well-built, high quality fixed-lens camera using an aluminum body and a simple shutter-priority autoexposure system. This rangefinder camera was adopted as the basic chassis for several excellent camera models, including the Minolta 7SII, Revue 400 SE, Prinz 35 ER, and Vivitar 35 ES.

In 1982, Cosina began to manufacture lenses in a variety of SLR manufacturers' lens mounts. In 1991, it started to produce glass molded aspheric lenses, and in 1996 plastic molded aspherical lenses. Cosina began producing digital cameras in 1997.

At about this time, plans were started to produce a new 35 mm rangefinder camera, complete with wide and ultrawide lenses for the Leica screw mount, and also a basic camera — similar to a rangefinder camera, but without a rangefinder or viewfinder — for mounting these. Having obtained the rights to the brand "Voigtländer" from Ringfoto in Germany, Cosina introduced a Voigtländer 15 mm f/4.5 and 25 mm f/4 lens (neither of them rangefinder-coupled) and the Voigtländer Bessa-L body in 1999. It quickly followed with a wider range of cameras (starting with the Bessa-R, with viewfinder and rangefinder; and the Bessa-T, with rangefinder, but no viewfinder); and a set of lenses including the Heliar 12 mm f/5.6 lens, which on its introduction was the widest rectilinear lens ever marketed for still photography.

On April 26, 2010, Cosina joined the Micro Four Thirds System Standard Group [1]

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

Cosina เป็น matchmallow พระนิโก (หรือ "Nikoh"), บริษัทตั้งเป็นผู้ผลิตเลนส์ในปี 1959 ด้วย ใน 1966 เริ่มต้นการผลิต 35 มม.คอมแพคและกล้อง 8 มม.คาส ในปี 1968 มันเริ่มต้น glassworks และในปีต่อมาเริ่มต้นการผลิตของกล้องฟิล์ม 35 มม. พระนิโกได้เปลี่ยนชื่อเป็น Cosina 1973 (ส่วนแรกของชื่อเป็นการอ้างอิงไปในพี้นที่ภายในนากาโนะ ผู้ก่อตั้งมาจากไหน ในขณะที่ 'นา' แทนนากาโนะ)ชื่อ Cosina ได้ก่อนหน้านี้ปรากฏบนคอมแพคและ SLR กล้องฟิล์ม 135 CS 2 และกล้อง Slr CS 3 ถูกนำมาใช้ในปี 1978 ตามมาในปี 1980 จาก CT-1, CT-7 (โลกแรกปุ่มกดทั้งหมด SLR), CT-10 และ CT-20, G CT-1 1982 และ CT-9 ในปี 1986 กล้อง Cosina ใช้ M42 ตัวใด (Praktica Pentax) เลนส์หรือเลนส์ Pentax K (หุ้น) อย่างไรก็ตาม Cosina ได้คงรู้จักกันดีเป็นผู้ผลิตของกล้องและส่วนประกอบกล้องยี่ห้ออื่น ๆ ในช่วงปลายทศวรรษ 1970, Cosina ได้ชื่อของตัวเองใน 35 มม.กล้อง rangefinder ได้โดยใช้เลนส์กล้องคุณภาพสูง สร้างด้วยอลูมิเนียมและระบบชัตเตอร์ง่าย autoexposure นี้กล้อง rangefinder ซึ่งใช้เป็นตัวถังพื้นฐานสำหรับรุ่นกล้องเยี่ยมหลาย รวมทั้ง Minolta 7SII, Revue 400 SE, 35 เจ้าเขาและ Vivitar 35 ESในปี 1982 Cosina เริ่มผลิตเลนส์หลากหลายผู้ผลิต SLR เลนส์ติด ในปี 1991 เริ่มต้นในการผลิตแม่พิมพ์แก้วชิ้นเลนส์ และในปี 1996 โดยแม่พิมพ์พลาสติกชิ้นเลนส์ Cosina เริ่มผลิตกล้องดิจิตอลในปี 1997ที่ในช่วงเวลานี้ แผนเริ่มการผลิตใหม่กล้องแบบ 35 มม. rangefinder พร้อมเลนส์กว้างกว้าง และพิเศษสำหรับสกรูติดไลก้า และกล้องพื้นฐาน - คล้าย กับ กล้อง rangefinder แต่ ไม่มีออหรือช่องมองภาพ- สำหรับการติดตั้งเหล่านี้ Cosina มีสิทธิ์แบรนด์ "Voigtländer" จาก Ringfoto ในเยอรมนีเพิ่มขึ้น นำ Voigtländer 15 มม. f/4.5 และร่างกายของเลนส์ f/4 ขนาด 25 มม. (ไม่ได้วัดระยะแบบควบคู่) และ Voigtländer bessa L ในปี 1999 ได้อย่างรวดเร็วตาม ด้วยช่วงกว้างของกล้อง (เริ่มต้น กับ bessa R ช่องมองภาพ และวัดระยะ แบบ bessa T กับออ แต่ไม่มีช่องมองภาพ); และรวมถึงชุดของเลนส์ Heliar 12 มม. f/5.6 เลนส์ ซึ่งบนตัวอะไร widest เอกลักษณ์เลนส์เคยทำตลาดสำหรับการถ่ายภาพนิ่งบน 26 เมษายน 2010, Cosina ร่วมไมโครกลุ่มสามสี่ระบบมาตรฐาน [1]

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

Cosina คือทายาทที่นิโก้ (หรือ "Nikoh") ซึ่งเป็น บริษัท ที่ตั้งขึ้นเป็นผู้ผลิตเลนส์ในปี 1959 ในปี 1966 นั้นจะเริ่มผลิต 35 มิลลิเมตรกล้องขนาดเล็กและ 8 มมกล้องภาพยนตร์, ในปี 1968 มันเริ่มต้นโรงงานและ หนึ่งปีต่อมาเริ่มการผลิตของกล้องฟิล์ม SLR ขนาด 35mm นิโก้เปลี่ยนชื่อเป็น Cosina ในปี 1973 (ส่วนแรกของชื่อคือการอ้างอิงไปยังพื้นที่ Koshi ภายใน Nakano ที่ก่อตั้งมาจาก. ขณะที่ 'นา' darstellt Nakano) ชื่อ Cosina ได้ปรากฏตัวขึ้นก่อนหน้านี้ในขนาดกะทัดรัดและ สำหรับกล้อง SLR ฟิล์ม 135 CS-2 และ CS-3 SLRs ถูกเปิดตัวในปี 1978 ตามมาในปี 1980 โดย CT-1, CT-7 (แรกของโลกทุกปุ่มกด SLR), CT-10 CT-20 CT-1G ในปี 1982 และ CT-9 ในปี 1986 Cosina กล้อง SLR ที่ใช้ทั้ง M42 (ที่ Praktica / Pentax) ติดเลนส์หรือ Pentax K (ดาบปลายปืน) ติดเลนส์ อย่างไรก็ตาม Cosina อาจเป็นที่รู้จักกันดีเป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนกล้องและกล้องยี่ห้ออื่น ๆ ในช่วงปลายปี 1970 ที่ Cosina สร้างชื่อให้ตัวเองใน 35 มิลลิเมตรกล้องเรนจ์ไฟด้วยดีสร้างที่มีคุณภาพสูงกล้องคงเลนส์ที่ใช้ในร่างกายของอลูมิเนียมและมีความสำคัญชัตเตอร์ง่ายๆระบบการเปิดรับแสงอัตโนมัติ. กล้องเรนจ์ไฟนี้สิ่งที่นำมาใช้เป็นตัวถังพื้นฐาน สำหรับรุ่นกล้องที่ดีเยี่ยมหลายแห่งรวมถึง Minolta 7SII, ชุด 400 SE, ปรินซ์ 35 ER และ Vivitar 35 ES. ในปี 1982 Cosina เริ่มผลิตเลนส์ในความหลากหลายของผู้ผลิต SLR 'เมาท์เลนส์ ในปี 1991 จะเริ่มต้นในการผลิตแม่พิมพ์แก้วเลนส์ aspheric และในปี 1996 เลนส์พลาสติกขึ้นรูปทรงกลม Cosina เริ่มผลิตกล้องดิจิตอลในปี 1997 ในเวลานี้มีแผนเริ่มผลิตใหม่ 35 มิลลิเมตรกล้องเรนจ์ไฟสมบูรณ์ด้วยเลนส์กว้างและกว้างพิเศษสำหรับ Leica กรูภูเขาและดังนั้นจึงเป็นกล้องพื้นฐาน - คล้ายกับกล้องเรนจ์ไฟ แต่ โดยไม่ต้องเรนจ์ไฟหรือช่องมองภาพ - การติดตั้งสำหรับวิทยานิพนธ์ หลังจากที่ได้รับสิทธิในการแบรนด์ "Voigtländer" จาก Ringfoto ในเยอรมนี Cosina แนะนำ Voigtlander 15mm f / 4.5 และ 25mm f / 4 เลนส์ (ไม่ใช่ของพวกเขาเรนจ์ไฟคู่) และร่างกาย Voigtlander Bessa-L ในปี 1999 มัน ตามมาอย่างรวดเร็วด้วยช่วงตรงกันข้ามของกล้อง (เริ่มต้นด้วย Bessa-R ที่มีช่องมองภาพและเรนจ์ไฟ; และ Bessa T มีเรนจ์ไฟ แต่ไม่มีช่องมองภาพ); และชุดของเลนส์รวมทั้ง Heliar 12 มม f / 5.6 เลนส์ซึ่งในการแนะนำของสิ่งที่เป็นเส้นตรงเลนส์ที่กว้างที่สุดเท่าที่เคยวางตลาดสำหรับการถ่ายภาพให้นมบุตร. เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2010, Cosina เข้าร่วมในระบบ Micro Four Thirds ระบบมาตรฐานกลุ่ม [1]